fly me to the moon
.
.
.
- CUT –
.
.
.
ร่างเล็กถูกวางลงบนตักยามเจ้าของห้องนั่งลงบนโซฟาโดยที่ริมฝีปากเรายังคงแนบชิดกันไม่ห่าง
เสียงจูบชื้นแฉะดังก้องในห้องเงียบที่ไม่มีแม้แต่เสียงเครื่องปรับอากาศ จูบที่อุ่นจนร้อนทำให้ใครบางคนส่งเสียงครางเครือประท้วงแต่อีกคนหาได้สนใจจะฟังไม่
เสื้อเชิ้ตสีฟ้ายี่ห้อโปรดพอดีตัวถูกทอดทิ้งแบบที่เจ้าของเสื้อก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ผิวขาวละเอียดที่เปลือยเปล่าถูกจูบไม่หยุดแบบแทบจะไม่เว้นที่ว่าง
ยอดอกสีอ่อนถูกครอบครอง ดูดดึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวจะกลั่นแกล้ง..
เหนือนทีแทบจะออกแรงกัดมันแล้วด้วยซ้ำยามที่อีกคนขยุ้มผมเขาเพราะอารมณ์หวามไหวที่ถูกกระตุ้น
“คะ.. คุณ”
“.....”
“เบาให้กันหน่อยได้มั้ย”
บางคนเอ่ยขอร้องด้วยเสียงขาดๆ หายๆ
เพราะหัวใจที่เต้นถี่รัว..
แต่คนที่รับบทคนต้องง้อก็เหมือนจะลงโทษกันมากกว่าเพราะริมฝีปากนั่นยังไม่ยอมหยุดจูบเขาเลย
หน้าผาก ปลายจมูก แก้มสองข้าง
ริมฝีปาก.. ต้นคอ แผ่นอก
เหนือนทีไม่ละเว้นให้กันแม้สักที่
แม้กระทั่งในยามที่จับเขาเปลือยกายจนหมด
ก็ยังไม่ยอมหยุดจูบสักนาที
“คุณ”
“ผมอยากจูบให้คุณขาดใจเลย”
คนที่เอาใจกันมาตลอด
บทจะเอาแต่ใจก็รับมือยากเหลือเกิน
“ใส่ให้หน่อยได้มั้ยครับ”
ซองสี่เหลี่ยมเล็กๆ
สีเงินถูกดึงออกจากกระเป๋าสตางค์แล้วยื่นมาตรงหน้า
อาโปที่ริมฝีปากเริ่มแดงช้ำรับมาก่อนจะใช้ฟันฉีกซองนั้นออกเหมือนมันเป็นเรื่องง่าย
แล้วถดตัวลงจากตักที่เขาเพิ่งถอดกางเกงเจ้าของมันออกไปเมื่อกี้
ก้มหน้าลงก่อนจะเอ่ยถาม
“อยากให้ใช้มือหรือปากใส่ให้”
แม้มันจะเป็นคำถาม ..แต่เจ้าของริมฝีปากอุ่นที่ครอบบางอย่างลงมาก็ไม่ได้รอฟังคำตอบด้วยซ้ำ
เหนือนทีดึงอาโปให้ขึ้นมานั่งคร่อมตักแบบหันหน้าเข้าหากันอีกครั้ง
ก่อนที่เขาจะซบหน้าลงกับไหล่เล็ก แล้วรั้งเอวบางให้เข้ามาแนบชิดมากกว่าเดิม
กดจูบลงบนต้นคอที่มีกลิ่นน้ำหอมหวานๆ
ที่เขาโคตรเกลียด เพราะมันชวนให้เวียนหัว
ทำให้ใจเขาปั่นป่วน..
แต่มันก็เหมาะกับอาโปแบบที่เขาปฏิเสธไม่ได้
และกำลังหลงรักกลิ่นนี้ขึ้นทุกวัน
“ผมโคตรคิดถึงคุณ”
บอกความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาก่อนจะจูบริมฝีปากนิ่มอีกครั้ง
ไล้มือข้างหนึ่งตามแนวสันหลังก่อนจะบีบเค้นสะโพกมนแบบที่เจ้าของมันก็ขยับหามือเขาอย่างว่าง่าย
เขาเคยพูดว่าอาโปเหมือนแมวจร..
ก็คือดื้อนั่นแหละ แต่ถ้าคุ้นเคยกับเราเมื่อไหร่ก็โคตรจะอ้อนเลย
..
อ้อนแบบที่ยอมเอียงหน้ามาหามือเขาอีกข้างที่วางแนบแก้มแล้วคลอเคลียกันแบบนั้น
..
แบบที่พอเขาใช้ปลายนิ้วโป้งแตะลงบนมุมปากอิ่ม ลิ้นเล็กๆ นั่นก็แลบออกมาเลียเล่นด้วยกันทันที
เคยคิดมาตลอดว่าเซ็กส์ระหว่างเราสองคนมันดี
..ดีมากๆ
แต่ก็ไม่คิดว่าจะดีได้อีกขนาดนี้ยามใครบางคนที่นั่งคร่อมหน้าตักกันอยู่ค่อยๆ
บดเบียดตัวเองลงมาเพื่อให้ช่องทางคับแคบนั้นโอบรับตัวตนเขาเอาไว้ได้ทั้งหมด
จังหวะของอาโปเหมือนบทเพลงที่เขาชอบ..
เริ่มต้นอย่างเนิบช้า ก่อนที่จะรวดเร็วขึ้นเมื่อเข้าถึงท่อนฮุก
บีทหนักๆ
ของเพลงทำให้ใจของเขาเต้นรัวราวจะคลั่ง แล้วพอถึงจุดของเนื้อเพลงที่เขาเฝ้ารอ
เหนือนทีก็เอื้อมมือไปแตะต้องส่วนอ่อนไหวที่ขยับล่อสายตากันตั้งแต่ต้น
แต่กลับถูกปัดออกเสียอย่างนั้น
“ห้ามจับ”
เสียงหวานๆ ปนหอบเอ่ยอย่างดุๆ
“ถ้ายังอยากให้ขึ้นให้แบบนี้ก็ห้ามซน”
คนถูกขู่ที่ปกติก็เชื่องมากๆ
อยู่แล้วยอมละมือออกแต่โดยดี
มือสองข้างเลยเอื้อมไปเกาะกุมที่เอวบางและลูบไล้ไปมาเพราะมันแสนจะลื่นมือแทน
ยอดอกสีอ่อนถูกครอบครองอีกครั้ง..
พร้อมๆ กับที่ริมฝีปากแดงเอ่ยครางเสียงหวาน
“อื้อ... อย่ากัด”
“ผม.. ไม่ไหว”
มือบางแตะข้างสันกรามได้รูปบังคับให้อีกคนเงยหน้าขึ้น
กดจูบลงไปทั้งเพื่อปิดเสียงครางเครือของตัวเอง และห้ามฟันซนๆ นั้น
..ถ้ายังกัดกันแบบนั้นคนที่จะไม่ไหวคือเขาต่างหาก
เพราะแค่นี้..
“คุณน่ะรัดกันโคตรแน่น”
เขาก็จะตายเอาให้ได้แล้วเลย..
.
.
Fly me to the moon
And let me play among the stars
.
.
เหนือนทีอุ้มคนตัวเล็กขึ้นทั้งที่ส่วนนั้นของเรายังคงเชื่อมกันอยู่
และมันก็โอบรัดกันทุกครั้งที่เขาก้าวเดินเพื่อพาอีกคนไปวางลงบนเตียงในห้องนอน
เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่เราจูบกันราวกับโหยหากันมาทั้งชีวิต
..จูบแล้วจูบเล่า ผละออกเพื่อจูบใหม่ซ้ำๆ อยู่แบบนั้น
และเพราะเป็นคนตัวโตกว่าที่อยู่ข้างบน
ใครอีกคนจึงราวกับจะขาดใจเสียให้ได้ยามที่อีกคนกระแทกกระทั้นตัวเองลงมา
มันเนิบช้า..แต่หนักหน่วง
สอดใส่จนสุดก่อนจะผละออกจนเกือบสุดเช่นกัน และตอกย้ำเข้ามาใหม่ซ้ำๆ
เพื่อให้เขาบีบรัดและโอบรัดเอาไว้
ก่อนจะเปลี่ยนจังหวะนั้นให้รวดเร็วและรุนแรงขึ้นราวกับอยากให้เขาขาดใจลงตรงนี้
“เบา..”
“.....”
“คุณ ช้าๆ ให้หน่อย”
ไม่รู้ว่าอีกคนได้ยินคำพูดเขาแล้วแปลว่าอย่างไร
เพราะคนที่ไม่ใจดีเลยในวันนี้จับคนตัวเล็กพลิกให้นอนคว่ำหน้าลงกับหมอนและยิ่งรัวจังหวะของตัวเองให้รุนแรงยิ่งขึ้น
มือเล็กจิกทึ้งผ้าปูที่นอนแบบไม่สนใจหากว่ามันจะขาดติดมือ
เสียงครางหวานปนหอบราวจะฟ้องว่าเขาหายใจแทบไม่ทันแล้ว
“ที..”
อาโปแทบจะร้องไห้เสียให้ได้ตอนที่มือข้างหนึ่งของคนด้านหลังเอื้อมมากอบกุมส่วนอ่อนไหวของเขาแล้วชักรูดตามจังหวะที่กำลังเอาแต่ใจอยู่
ใบหน้าสวยหวานเอียงซบด้านข้างลงกับหมอน
อ้าปากหอบเอาอากาศเฮือกใหญ่เข้าปอด หยดน้ำตาซึมปลายหางตายามที่ควบคุมตัวเองไม่ไหว
มันดีเกินไป..
ทั้งเซ็กส์ ทั้งเหนือนทีดีเกินไปแล้ว
ยิ่งในยามที่เจ้าตัวใกล้จะพาเขาถึงฝั่งและกดจูบลงบนต้นคอด้านหลังพร้อมกับกัดกันเบาๆ
ตอนที่สอดใส่เข้ามาแรงๆ จนสุดแบบนั้นยิ่งทำให้ตัวเขาสั่นระริกราวกับจะยอมแพ้
อาโปปลดปล่อยออกมาจนหมด ไม่สนว่าเตียงสีขาวจะเปรอะเปื้อนมากเพียงใด
แข้งขาอ่อนแบบที่พร้อมจะทรุดลงกับเตียงเสียให้ได้ถ้าไม่มีใครอีกคนประคองตัวเขาเอาไว้อยู่
และยิ่งในยามที่อีกคนถึงฝั่งตามมา
จังหวะสุดท้ายนั้นราวจะพรากวิญญาณเขาให้หลุดลอยจากร่าง ในหัวว่างเปล่าขาวโพลนไปหมด
ไม่มีความรู้สึกอื่นใดเลย
นอกจาก ..เหนือนที
เหนือนทีที่แปลว่าดีมาก.. ดีมากที่สุดในใจ
.
.
อาโปรู้แล้วว่าเขาพ่ายแพ้ให้กับอะไร
เขาแพ้ให้วิธีการจูบของอีกคนที่จูบไปด้วยและช้อนตามองเขาไปด้วย..
ด้วยสายตาต้องการกันแบบเปิดเผย แบบที่ได้ไปแล้วทั้งหมดก็ยังไม่พอ
“อีกรอบได้มั้ย”
คนตัวเล็กส่ายหน้า
แข้งขาอ่อนปวกเปียกแบบที่อีกคนยกขึ้นมาจูบไล่ตั้งแต่ข้อเท้า เรื่อยๆ
ขึ้นมาจนจะถึงต้นขาอ่อนอยู่แล้วก็ยังไม่มีแม้แต่แรงจะฝืนต้าน
ปล่อยให้อีกคนจับ กัดเบาๆ เหมือนหมาเด็กคันฟัน
และก็จูบย้ำๆ แบบนั้นจนมันแดงก่ำ
อาโปพยายามจะหุบขา ร้องบอกอีกคนว่าพอก่อน
เพราะเขาจะไม่ไหวแล้วแต่เด็กดื้อก็ไม่ฟังกันเลย เพราะเหนือนทีก้มหน้าลงมาหาส่วนนั้นอย่างดื้อดึง
จับประคองและจูบจนมันสั่นไหว
สุดท้ายเขาก็ทำได้เพียงใช้สองมือขยำกลุ่มผมสีอ่อนนั้นไว้ยามที่อีกคนใช้ริมฝีปากเข้าครอบครองกัน
สุดท้าย ..ก็เป็นเขาที่ต้องเอ่ยเรียกร้องให้อีกฝ่ายทำมากกว่านั้น
จูบมากกว่านั้น ครอบครองกันมากกว่านั้น
.. ครอบครองกันทั้งหมดเลย
.
.
.
- ไปอ่านในนู้นกันต่อนะคะ –
Comments
Post a Comment